Melissa

จิ่วไจ้โกว: ดินแดนแห่งเทพนิยายบนผืนแผ่นดินจีน

บทนำ จิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou Valley) ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน และเป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ที่มีชื่อเสียงด้านความงดงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบสีฟ้ามรกต น้ำตกหลากชั้น ป่าไม้เขียวชอุ่ม และภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างหลงใหลในความมหัศจรรย์ของจิ่วไจ้โกว ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ดินแดนแห่งเทพนิยาย”

  1. ความงดงามของธรรมชาติในจิ่วไจ้โกว

1.1 ทะเลสาบห้าสี (Five-Color Lake) ทะเลสาบห้าสีเป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด น้ำในทะเลสาบมีสีฟ้า เขียว เหลือง และมรกต ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามมุมของแสงแดดและฤดูกาล ความใสของน้ำทำให้สามารถมองเห็นพื้นทะเลสาบที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ล้มลง

1.2 น้ำตกนู่รื่อหลาง (Nuorilang Waterfall)
น้ำตกนู่รื่อหลางเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วไจ้โกว โดยมีความสูงถึง 24.5 เมตร และความกว้างกว่า 300 เมตร น้ำที่ไหลลงมาตลอดปีสร้างเสียงอันสงบเย็น และเป็นสถานที่ถ่ายภาพที่สวยงาม

1.3 ป่าในหุบเขา (Primeval Forests)
จิ่วไจ้โกวเป็นที่ตั้งของป่าไม้เก่าแก่ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง สีเหลือง และสีส้ม ทำให้ภูมิทัศน์ดูราวกับภาพวาด


  1. วัฒนธรรมและตำนานในจิ่วไจ้โกว

2.1 เรื่องเล่าของชนเผ่าทิเบตและเชียง
พื้นที่จิ่วไจ้โกวเป็นบ้านของชนเผ่าทิเบตและเชียง ซึ่งมีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ตำนานเกี่ยวกับทะเลสาบและน้ำตกมักเกี่ยวข้องกับความรัก ความเสียสละ และพลังแห่งธรรมชาติ

2.2 หมู่บ้านชนเผ่า
นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวทิเบตในจิ่วไจ้โกว ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบ้านเรือนสไตล์ดั้งเดิม พร้อมกับเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณี เช่น การเต้นรำ การทำอาหารท้องถิ่น และการสวดมนต์ในศาสนาพุทธทิเบต

  1. กิจกรรมยอดนิยมในจิ่วไจ้โกว

3.1 การเดินป่าและสำรวจเส้นทางธรรมชาติ จิ่วไจ้โกวมีเส้นทางเดินป่าที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการเดินเบา ๆ ชมวิว หรือผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางที่ท้าทาย

3.2 การถ่ายภาพ
จิ่วไจ้โกวเป็นสวรรค์ของช่างภาพ ด้วยวิวที่สวยงามของทะเลสาบ น้ำตก และภูเขา คุณสามารถเก็บภาพความงดงามที่ดูเหมือนหลุดมาจากโปสการ์ด

3.3 การแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน
หลังจากการเดินป่าหรือท่องเที่ยว คุณสามารถผ่อนคลายด้วยการแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ใกล้กับเขตจิ่วไจ้โกว

  1. ฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการเดินทาง
  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): อากาศเย็นสบาย ดอกไม้เริ่มผลิบาน
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): ป่าไม้เขียวชอุ่ม ทะเลสาบเต็มไปด้วยน้ำ
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน):ช่วงที่จิ่วไจ้โกวมีสีสันที่สุด ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): ทะเลสาบและน้ำตกบางแห่งกลายเป็นน้ำแข็ง สวยงามในแบบฤดูหนาว
  1. เคล็ดลับสำหรับการเดินทาง
  • การเดินทางจากเฉิงตู: ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชั่วโมงด้วยรถบัส หรือบินตรงไปยังสนามบินจิ่วไจ้โกว
  • การเตรียมตัว: สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับฤดูกาล และรองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินป่า
  • ข้อควรระวัง: เนื่องจากจิ่วไจ้โกวตั้งอยู่ในที่สูง ควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพ้ความสูง

บทสรุป
จิ่วไจ้โกวเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและต้องการสัมผัสความมหัศจรรย์ของโลกใบนี้ ไม่ว่าคุณจะมองหาการพักผ่อน หรือการผจญภัย จิ่วไจ้โกวสามารถตอบโจทย์คุณได้ทั้งหมด ที่นี่คือสถานที่ที่ความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมมาบรรจบกันอย่างลงตัว

Jiuzhaigou Valley

ท่องเที่ยว Chengdu: ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดในเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

บทนำ เฉิงตู (Chengdu) เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน เป็นที่รู้จักในฐานะบ้านของหมีแพนด้าและอาหารรสเผ็ด แต่ความน่าสนใจของเฉิงตูไม่ได้หยุดแค่นั้น เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ดึงดูดเฉพาะตัว หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานความทันสมัยและดั้งเดิม เฉิงตูคือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ


  1. สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเฉิงตู

1.1 ฐานวิจัยการเพาะพันธุ์แพนด้า (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding)
ไม่มีทริปใดในเฉิงตูจะสมบูรณ์แบบหากไม่ได้ชมแพนด้ายักษ์ สัตว์ประจำชาติของจีน ที่ฐานวิจัยนี้ คุณจะได้เห็นแพนด้าในทุกช่วงวัย ตั้งแต่ลูกแพนด้าแสนซนไปจนถึงตัวเต็มวัยที่น่ารัก

1.2 วัดวูโหว (Wuhou Shrine)
วัดวูโหวเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่อุทิศให้กับขงเบ้ง นักการเมืองและนักยุทธศาสตร์ในยุคสามก๊ก การเยี่ยมชมวัดนี้จะพาคุณย้อนเวลากลับไปในประวัติศาสตร์จีน

1.3 ถนนคนเดินจินหลี่ (Jinli Ancient Street)
ถนนคนเดินจินหลี่เป็นย่านการค้าที่ผสมผสานความเก่าแก่และความทันสมัย คุณสามารถลิ้มลองอาหารเสฉวนแบบดั้งเดิม ซื้อของที่ระลึก และชมการแสดงวัฒนธรรมพื้นเมือง

1.4 สวนสาธารณะหว่านเจียงโหลว (Wangjianglou Park)
สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสความสงบในใจกลางเมือง คุณจะได้เห็นต้นไผ่หลากหลายสายพันธุ์และสถาปัตยกรรมจีนโบราณ

  1. วัฒนธรรมการกินของเฉิงตู

2.1 หม้อไฟเสฉวน (Sichuan Hotpot)
หม้อไฟเสฉวนเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยน้ำซุปเผ็ดที่ทำจากพริกเสฉวนและเครื่องเทศเฉพาะตัว คุณสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ตามชอบ

2.2 อาหารท้องถิ่นอื่น ๆ
– เต้าหู้มาโฝ (Mapo Tofu): เต้าหู้รสเผ็ดที่เป็นเอกลักษณ์
– บะหมี่ตันตัน (Dan Dan Noodles): บะหมี่เส้นเล็กกับซอสเผ็ดหอมเครื่องเทศ
– เกี๊ยวเฉิงตู (Chengdu Dumplings):เกี๊ยวราดซอสเผ็ดหวาน

2.3 โรงน้ำชา (Teahouses)
การดื่มชาในเฉิงตูไม่ใช่แค่การดื่มเครื่องดื่ม แต่เป็นประสบการณ์ทางวัฒนธรรม คุณสามารถนั่งพักผ่อนในโรงน้ำชาดั้งเดิมและชมการแสดง เช่น การเปลี่ยนหน้ากาก

  1. การท่องเที่ยวธรรมชาติรอบเฉิงตู

3.1 ภูเขาชิงเฉิง (Mount Qingcheng)
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งกำเนิดลัทธิเต๋า คุณสามารถเดินเขาชมวิวป่าเขียวขจี และสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ

3.2 หลวงพ่อโตเล่อซาน (Leshan Giant Buddha)
รูปปั้นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหน้าผาสูง 71 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก การล่องเรือชมหลวงพ่อโตจากแม่น้ำมินเจียงเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

3.3 อุทยานหวงหลง (Huanglong Scenic Area)
อุทยานที่เต็มไปด้วยทะเลสาบสีรุ้ง น้ำตก และป่าดงดิบ เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและการถ่ายภาพ

  1. กิจกรรมที่ห้ามพลาดในเฉิงตู
  • การชมการแสดงเสฉวนโอเปร่า (Sichuan Opera): ประทับใจกับศิลปะการเปลี่ยนหน้ากากและการพ่นไฟ
  • การปั่นจักรยานชมเมือง: สำรวจมุมสงบของเฉิงตูด้วยจักรยานเช่า
  • การช้อปปิ้ง: ย่านถนนชุนซี (Chunxi Road) เป็นแหล่งรวมแบรนด์แฟชั่นและของที่ระลึก
  1. เคล็ดลับสำหรับการเดินทาง
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) มีอากาศเย็นสบาย
  • การเดินทาง: เฉิงตูมีระบบขนส่งที่สะดวกสบาย เช่น รถไฟใต้ดิน รถประจำทาง และบริการแชร์จักรยาน
  • ข้อควรระวัง: เมนูอาหารบางชนิดมีรสชาติเผ็ดร้อน ควรสอบถามก่อนสั่ง

บทสรุป
เฉิงตูเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ธรรมชาติที่สวยงาม และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล การมาเยือนเฉิงตูไม่เพียงแต่จะเติมเต็มความสุขให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้และเข้าใจความลึกซึ้งของประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตชาวจีนอย่างแท้จริง

Chengdu sightseeing

Daocheng: ดินแดนแห่งดวงดาวและความงามที่ไร้กาลเวลา Daocheng: ดินแดนแห่งการเดินทางสู่ความงามบริสุทธิ์

Daocheng (เต๋าซาน) ตั้งอยู่ในเขตทิเบตของจังหวัดเสฉวน เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและความเงียบสงบของเขตสูง ซึ่งอยู่ห่างจากเฉิงตูประมาณ 1,200 กิโลเมตร จุดเด่นของที่นี่คือทิวทัศน์ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และทุ่งหญ้าที่เขียวขจี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงที่ทิวทัศน์ยิ่งงดงามมากขึ้น

ที่ Daocheng คุณจะได้สัมผัสกับความเงียบสงบและความงามที่ไม่เหมือนใครในโลก รวมถึงการเดินทางผ่านธรรมชาติที่สวยงามและบริสุทธิ์ที่ทำให้ที่นี่ได้รับชื่อเสียงในหมู่ช่างภาพและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สถานที่ท่องเที่ยวใน Daocheng

  1. ทะเลสาบ Yading
    ทะเลสาบ Yading เป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดใน Daocheng และเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะที่สูงตระหง่าน และมีน้ำสีฟ้าสดใสที่สะท้อนท้องฟ้าและภูเขาอันงดงาม การเดินทางไปยังทะเลสาบ Yading สามารถทำได้ผ่านเส้นทางเดินป่าที่คดเคี้ยว ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่

  2. ภูเขา Yading (Yading Mountain)
    ภูเขา Yading เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคนี้ และเป็นภูเขาที่ถือว่าเป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบต ทิวทัศน์ของภูเขานี้ยิ่งงดงามในช่วงฤดูหนาวเมื่อภูเขาถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดที่นักเดินป่าหลายคนมักมาปีนเขาและสัมผัสกับความท้าทายของภูเขาที่สูงชัน

  3. หมู่บ้านทิเบต Daocheng
    หมู่บ้านทิเบตใน Daocheng เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ควรไปเยี่ยมชมที่นี่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวทิเบตที่ยังคงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างดี รวมถึงการเยี่ยมชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น หินและไม้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ

  4. อาราม Chonggu
    อาราม Chonggu เป็นวัดทิเบตที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบ Yading วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางศาสนาในชุมชนทิเบตและเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปกราบไหว้และเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาและวัฒนธรรมทิเบตได้เป็นอย่างดี สถาปัตยกรรมของวัดสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะเด่นของการออกแบบวัดทิเบตที่มีความสวยงามและเรียบง่าย

กิจกรรมที่น่าสนใจใน Daocheng

  1. การเดินป่าและปีนเขา
    Daocheng เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินป่าและการปีนเขา เส้นทางเดินป่าที่นี่จะพาคุณไปสัมผัสกับความงามของภูเขา ทะเลสาบ และธรรมชาติอันบริสุทธิ์ การเดินป่าใน Daocheng จะทำให้คุณได้เห็นวิวที่สวยงามในทุกทิศทาง

  2. การขี่ม้าในทุ่งหญ้า
    ใน Daocheng การขี่ม้าผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวขจีเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่กว้างใหญ่และสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอย่างเต็มที่

  3. เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทิเบต
    พิพิธภัณฑ์ทิเบตใน Daocheng เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทิเบตได้อย่างลึกซึ้ง ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีการจัดแสดงเครื่องใช้และสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของชาวทิเบต รวมถึงศิลปะและงานฝีมือทิเบตที่มีความละเอียดและสวยงาม

การเดินทางไปยัง Daocheng

การเดินทางจากเฉิงตูไปยัง Daocheng สามารถทำได้โดยรถยนต์หรือรถบัส ซึ่งใช้เวลาประมาณ 14-16 ชั่วโมง หรือคุณสามารถเลือกใช้เครื่องบินจากเฉิงตูไปยังสนามบิน Daocheng Yading ซึ่งจะทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วขึ้น

สิ่งที่ควรเตรียมตัว

  1. เสื้อผ้าอบอุ่น
    Daocheng ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ดังนั้นคุณควรเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ รวมถึงเสื้อกันฝนหรือเสื้อกันลมถ้าหากเดินทางในฤดูฝน

  2. อุปกรณ์เดินป่า หากคุณวางแผนที่จะเดินป่าใน Daocheng ควรเตรียมรองเท้าเดินป่าที่เหมาะสม และอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น หมวกกันแดด ครีมกันแดด และเสบียงอาหาร

สรุป

Daocheng เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมทิเบตที่แท้จริง หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสงบและความงดงามของภูเขาหิมะและทะเลสาบ การเยี่ยมชม Daocheng จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและทำให้คุณได้สัมผัสกับความบริสุทธิ์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง

Sichuan tourism

การเยี่ยมชม Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding (ฐานวิจัยหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตู)

หมีแพนด้า: สัญลักษณ์ของจีนและการอนุรักษ์ธรรมชาติ

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในเฉิงตู การเยี่ยมชม Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding (ฐานวิจัยและเพาะพันธุ์หมีแพนด้ายักษ์เฉิงตู) จะเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นสถานที่ที่ทุ่มเททั้งเวลาและทรัพยากรในการอนุรักษ์และศึกษาหมีแพนด้า ซึ่งเป็นสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนและได้รับความรักจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ประวัติความเป็นมาของฐานวิจัย

ฐานวิจัยหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตูก่อตั้งขึ้นในปี 1987 โดยมีจุดประสงค์ในการศึกษาพฤติกรรมของหมีแพนด้าและการเพาะพันธุ์ เพื่อปกป้องสายพันธุ์หมีแพนด้าที่ใกล้สูญพันธุ์ จากนั้นสถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ

ฐานวิจัยนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่กว่า 500 เอเคอร์ในเขตชานเมืองเฉิงตูและมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงหมีแพนด้า โดยมีการจัดสร้างสวนและที่อยู่อาศัยให้เหมือนธรรมชาติของพวกมัน

สิ่งที่คุณสามารถพบเห็นได้ที่ Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding

  1. การพบกับหมีแพนด้ายักษ์
    ที่ฐานวิจัยนี้คุณจะได้เห็นหมีแพนด้าในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติของมันที่สุด โดยเฉพาะในตอนเช้าตรู่เมื่อหมีแพนด้าตื่นขึ้นจากการนอนหลับและเริ่มต้นวันใหม่ คุณจะเห็นพวกมันกินไผ่ เล่นน้ำ หรือเล่นกันอย่างน่ารัก

  2. การชมการเพาะพันธุ์หมีแพนด้า
    ฐานวิจัยมีการทำงานหนักในการเพาะพันธุ์หมีแพนด้าและปล่อยสัตว์ที่มีสุขภาพดีออกสู่ธรรมชาติ คุณสามารถชมกระบวนการต่างๆ ของการอนุรักษ์หมีแพนด้าได้จากข้อมูลที่จัดเตรียมไว้ให้ รวมถึงการดูแลและการบำรุงรักษาให้หมีแพนด้ามีชีวิตที่ดี

  3. ศูนย์การศึกษาหมีแพนด้า
    มีการจัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวกับหมีแพนด้า ซึ่งอธิบายถึงชีววิทยาและพฤติกรรมของหมีแพนด้า พร้อมกับข้อมูลเกี่ยวกับความพยายามในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์เหล่านี้ที่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากการสูญพันธุ์

  4. การร่วมกิจกรรมเสริมสร้างความรู้
    ฐานวิจัยยังมีการจัดกิจกรรมการศึกษาสำหรับเด็กๆ และครอบครัว เช่น การเขียนโปสการ์ดจากหมีแพนด้า การวาดภาพหมีแพนด้า และกิจกรรมสร้างสรรค์อื่นๆ ที่ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเยี่ยมชม

  1. เวลาเยี่ยมชม ฐานวิจัยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 น. ถึง 17:00 น. โดยนักท่องเที่ยวควรไปถึงตั้งแต่เช้าเพื่อจะได้เห็นหมีแพนด้ากำลังกินอาหารและมีความเคลื่อนไหว

  2. การเดินทางไปยังฐานวิจัย
    ฐานวิจัยหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตูตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเฉิงตูประมาณ 10 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยแท็กซี่หรือรถบัสที่มีบริการจากตัวเมืองมายังสถานที่นี้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการทัวร์ที่จัดการการเดินทางและไกด์ท่องเที่ยวให้

  3. สิ่งที่ควรพกพา
    แนะนำให้สวมใส่เสื้อผ้าที่สบายและรองเท้าที่เหมาะสมสำหรับการเดินมากๆ นอกจากนี้หากเดินทางในช่วงฤดูฝน ควรเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝน

ประโยชน์จากการเยี่ยมชมฐานวิจัย

การมาเยี่ยมชม Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณได้เห็นหมีแพนด้าที่น่ารัก แต่ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และการทำงานหนักของนักวิจัยที่ทุ่มเทเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในโลกนี้

สรุป

Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding ไม่เพียงเป็นสถานที่ที่คุณสามารถชมความน่ารักของหมีแพนด้า แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและความสำคัญของการรักษาสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ การเยี่ยมชมที่นี่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่าและน่าประทับใจในการเดินทางมายังเมืองเฉิงตู

Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding

หัวข้อ: “Chunxi Road: สวรรค์ของนักช็อปปิ้งในใจกลางเฉิงตู”

การเดินทางไปยังถนนชุนซี

ถ้าคุณเป็นนักช็อปปิ้งและกำลังมองหาประสบการณ์การช็อปที่ดีที่สุดในเมืองเฉิงตู ถนนชุนซี (Chunxi Road) คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด! ถนนชุนซีเป็นย่านช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเฉิงตูและเป็นแหล่งรวมสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่แฟชั่นสุดทันสมัยไปจนถึงสินค้าพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

บรรยากาศและการเดินเล่นบนถนนชุนซี

ถนนชุนซีเป็นถนนที่คึกคักไปด้วยผู้คนทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและช่วงเย็น ที่นี่มีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและคึกคัก ร้านค้ามากมายตั้งเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างของถนน ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่จนถึงร้านค้าท้องถิ่นที่ขายสินค้าพื้นเมือง ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน

หากคุณเดินเล่นบนถนนชุนซี คุณจะพบกับร้านค้าชื่อดังทั้งจากจีนและจากต่างประเทศ เช่น Apple Store, Uniqlo, Zara และ H&M ซึ่งมีสินค้าใหม่ๆ ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารที่ให้คุณพักผ่อนและเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งของคุณ

การช็อปปิ้งและของฝากที่น่าสนใจ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อของฝากหรือของที่ระลึกจากเฉิงตู ถนนชุนซีมีสินค้าและของฝากที่หลากหลายให้เลือกซื้อ เช่น

  1. เครื่องปั้นดินเผาจีน – สินค้าเครื่องปั้นดินเผาท้องถิ่นที่ทำด้วยมือ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์
  2. ผ้าไหม – เฉิงตูเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของผ้าไหม โดยคุณสามารถหาซื้อผ้าไหมจากร้านในย่านนี้
  3. เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว – แบรนด์เครื่องสำอางจีนหลายแบรนด์มีสาขาที่ถนนชุนซี และคุณสามารถหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้ที่นี่

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกที่จำหน่ายเครื่องประดับทำมือ งานฝีมือและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะเป็นของขวัญที่ดีสำหรับคนที่คุณรัก

ร้านอาหารและคาเฟ่ที่ไม่ควรพลาด

หากการช็อปปิ้งทำให้คุณรู้สึกหิว ถนนชุนซีมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่ให้คุณพักผ่อนและอิ่มอร่อยท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารจีนแท้ๆ หรือร้านอาหารนานาชาติที่มีรสชาติอร่อย อีกทั้งยังมีร้านขนมหวานและเครื่องดื่มหลากหลายให้คุณเลือกสรร

กิจกรรมพิเศษในช่วงเทศกาล

ถนนชุนซีจะยิ่งน่าตื่นเต้นในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลตรุษจีนหรือเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งมักจะมีการประดับไฟและจัดงานพิเศษต่างๆ ให้ความรู้สึกสนุกสนานมากยิ่งขึ้น คุณสามารถเดินชมแสงไฟระยิบระยับและร่วมกิจกรรมสนุกๆ ที่จัดขึ้นในย่านนี้

วิธีการเดินทางไปยังถนนชุนซี

ถนนชุนซีตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเฉิงตู และการเดินทางมายังที่นี่สะดวกสบายมากด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยคุณสามารถใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro Line 2) และลงที่สถานี Chunxi Road ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับถนนชุนซี นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางด้วยแท็กซี่หรือรถบัสได้ง่ายๆ

สรุป

ถนนชุนซีเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการช็อปปิ้งและการพักผ่อนในเมืองเฉิงตู นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเพลิดเพลินกับสินค้าที่หลากหลาย หากคุณมาที่เฉิงตู การเยี่ยมชมถนนชุนซีจะช่วยให้คุณเข้าใจความทันสมัยและวัฒนธรรมของเมืองนี้ได้ดีมากยิ่งขึ้น Chunxi Road

ถนนจินหลี่ (Jinli Ancient Street): เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมและการช้อปปิ้งในเมืองเฉิงตู

บทนำ ถนนจินหลี่ (Jinli Ancient Street) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุคและเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนโบราณ ถนนนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,800 ปี และได้รับการฟื้นฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งการช้อปปิ้ง การรับประทานอาหารพื้นเมือง และการสัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม ที่สำคัญคือที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถสัมผัสกับความเป็นจีนแบบดั้งเดิมท่ามกลางความทันสมัยของเมืองใหญ่

ประวัติของถนนจินหลี่
ถนนจินหลี่มีประวัติยาวนานย้อนกลับไปถึงสมัยราชวงศ์สามก๊ก โดยเฉพาะในช่วงราชวงศ์ฉู่ (Shu Kingdom) ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักธุรกิจและผู้คนที่เดินทางผ่านมักจะหยุดพักและทำธุรกิจที่นี่ ตั้งแต่สมัยนั้น ถนนจินหลี่เป็นศูนย์กลางของการค้าขายที่สำคัญในเมืองเฉิงตู และยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นถนนเก่าแก่ที่มีเสน่ห์มาจนถึงปัจจุบัน

ในปัจจุบัน ถนนจินหลี่ถูกฟื้นฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความผสมผสานระหว่างความโบราณและความทันสมัย มีร้านค้าท้องถิ่นที่ขายสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารจีนต้นตำรับจากเมืองเฉิงตู เช่น ฮอตพอท (Hot Pot) และขนมหวานที่มีรสชาติดั้งเดิม

การเดินทางไปถนนจินหลี่
การเดินทางไปยังถนนจินหลี่จากใจกลางเมืองเฉิงตูนั้นสะดวกมาก คุณสามารถเดินทางด้วยรถแท็กซี่หรือรถไฟใต้ดินสาย 1 ซึ่งจะพาคุณไปยังสถานี Tianfu Square จากนั้นเดินเท้าเพียงไม่กี่นาทีเพื่อมาถึงถนนจินหลี่ ถนนนี้ตั้งอยู่ใกล้กับวัดหวู่หาว (Wuhou Temple) และทำให้การท่องเที่ยวในพื้นที่นี้สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากคุณสามารถเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ ได้ในเวลาเดียวกัน

เสน่ห์ของถนนจินหลี่
สิ่งที่ทำให้ถนนจินหลี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเป็นจีนดั้งเดิม ถนนที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณ มีร้านค้าหรือห้องค้าแบบจีนดั้งเดิมที่มักขายของที่ระลึก เช่น ผ้าพันคอผ้าไหม, ผลิตภัณฑ์เซรามิก, พัดลม, และเสื้อผ้าแบบจีนโบราณ นอกจากนี้ยังมีร้านขายขนมจีนและของกินพื้นเมืองที่อร่อยหลากหลาย เช่น ขนมโหวงโก๋ (Huang Gou) และขนมพายปลา (Fish-shaped Pie)

นักท่องเที่ยวยังสามารถชมการแสดงศิลปะท้องถิ่น เช่น การแสดงกระบี่จีนและการต่อสู้มวยจีนโบราณได้ที่ถนนจินหลี่ นอกจากนี้ยังมีการแสดงโคมไฟที่งดงามในช่วงเย็น ซึ่งทำให้บรรยากาศของถนนจินหลี่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและอบอุ่น

กิจกรรมที่น่าสนใจในถนนจินหลี่ การเดินชมถนนจินหลี่เป็นกิจกรรมที่คุ้มค่ามากสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากถนนนี้เต็มไปด้วยร้านค้าที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเลือกซื้อของที่ระลึกที่มีเอกลักษณ์ และสัมผัสกับบรรยากาศที่มีเสน่ห์ของบ้านเรือนแบบจีนโบราณ อีกทั้งยังสามารถนั่งพักทานอาหารท้องถิ่นในร้านอาหารริมทางที่มีอาหารจีนต้นตำรับให้เลือกมากมาย

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมและศิลปะ คุณจะพบกับการแสดงศิลปะท้องถิ่น เช่น การแสดงของนักดนตรีและนักเต้นจีนในช่วงกลางคืน ที่จะเพิ่มสีสันให้กับการเยี่ยมชมของคุณ นอกจากนี้ถนนจินหลี่ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพ เพราะทุกมุมของถนนล้วนเต็มไปด้วยความสวยงามและเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร

เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม
ถนนจินหลี่สามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี แต่เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง (มีนาคมถึงพฤศจิกายน) เมื่ออากาศไม่ร้อนเกินไปและท้องฟ้าสดใส การเดินชมถนนในช่วงเย็นจะเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุด โดยเฉพาะเมื่อไฟโคมไฟเริ่มเปิดและสร้างบรรยากาศที่สวยงาม

เคล็ดลับการท่องเที่ยว การเดินชมถนนจินหลี่อาจจะใช้เวลานานในช่วงกลางวันที่มีนักท่องเที่ยวมาก ดังนั้นหากคุณต้องการสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบและไม่แออัด ควรเลือกไปในช่วงเช้าหรือเย็น นอกจากนี้ควรเตรียมกระเป๋าเล็กๆ สำหรับการช้อปปิ้งของที่ระลึก หรืออาหารท้องถิ่นที่คุณอยากนำกลับบ้าน

สรุป
ถนนจินหลี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรเยี่ยมชมสำหรับผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมจีนและการสัมผัสกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ถนนแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีของที่ระลึกมากมาย แต่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะจีนที่น่าสนใจ หากคุณเดินทางมาเยือนเฉิงตู ถนนจินหลี่จะเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณได้สัมผัสความเป็นจีนแบบดั้งเดิมในท่ามกลางความทันสมัยของเมือง Chengdu tourist attractions

ดุจเจียงยัน (Dujiangyan): มหัศจรรย์ของการชลประทานโบราณ

บทนำ
ดุจเจียงยัน (Dujiangyan) ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของจีน เป็นระบบการชลประทานที่สร้างขึ้นเมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้วโดยผู้นำชื่อ “Li Bing” และทีมงานของเขา ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการน้ำในพื้นที่นี้อย่างสิ้นเชิง ระบบชลประทานดุจเจียงยันยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2000

ประวัติความเป็นมาของดุจเจียงยัน
ดุจเจียงยันถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน (Qin Dynasty) โดย Li Bing ผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในการจัดการน้ำในแม่น้ำหมิงเจียง (Minjiang River) เพื่อป้องกันอุทกภัยและส่งเสริมการเกษตรกรรมในพื้นที่ภูเขาที่มีภูมิประเทศยากลำบาก การออกแบบระบบชลประทานนี้มีความซับซ้อนและเป็นนวัตกรรมในสมัยนั้น ซึ่งช่วยให้พื้นที่รอบๆ แม่น้ำหมิงเจียงสามารถพัฒนาได้จนกลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญ

ความสำคัญของดุจเจียงยัน
ดุจเจียงยันไม่เพียงแต่เป็นระบบการชลประทานที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่สำคัญของการออกแบบวิศวกรรมที่ผสมผสานกับธรรมชาติ ระบบนี้สามารถควบคุมการไหลของน้ำในแม่น้ำได้โดยไม่ต้องสร้างเขื่อนหรือโครงสร้างขนาดใหญ่ การใช้เทคนิคการแยกน้ำและการกระจายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ดุจเจียงยันเป็นต้นแบบของการบริหารจัดการน้ำในเชิงยั่งยืน

ในปัจจุบัน ระบบชลประทานนี้ยังคงใช้งานได้ดี และมีบทบาทสำคัญในการเกษตรกรรมในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากอุทกภัย โดยเฉพาะในฤดูฝนที่น้ำในแม่น้ำอาจมีระดับสูงมาก

การเดินทางไปยังดุจเจียงยัน
ดุจเจียงยันตั้งอยู่ห่างจากเมืองเฉิงตู (Chengdu) ประมาณ 50 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากเฉิงตูไปยังดุจเจียงยันได้ง่ายๆ โดยการนั่งรถบัสหรือรถไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง การเดินทางไปดุจเจียงยันเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ต้องการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในมณฑลเสฉวน

การเยี่ยมชมดุจเจียงยัน
เมื่อถึงดุจเจียงยัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมตามเส้นทางที่จัดเตรียมไว้เพื่อศึกษาวิธีการทำงานของระบบชลประทานที่ยอดเยี่ยมนี้ โดยมีจุดชมวิวต่างๆ ที่จะพาคุณไปเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำหมิงเจียงและโครงสร้างทางวิศวกรรมที่ล้ำสมัย

หนึ่งในจุดเด่นของการเยี่ยมชมดุจเจียงยันคือการเยี่ยมชม “หินดุจเจียงยัน” (Dujiangyan Stone) ซึ่งเป็นหินขนาดใหญ่ที่ใช้ในกระบวนการกระจายน้ำ ระบบชลประทานนี้ยังมีการแสดงให้เห็นถึงเทคนิคในการสร้างอุโมงค์ใต้ดินเพื่อควบคุมการไหลของน้ำในแม่น้ำ นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชม “ป้อมปืนไฮหลิง” (Fenggu) ซึ่งเป็นป้อมที่มีประวัติยาวนาน และยังคงยืนหยัดในท่ามกลางธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา

กิจกรรมที่น่าสนใจ
นอกจากการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบชลประทานโบราณแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเที่ยวในพื้นที่รอบๆ ดุจเจียงยัน ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงามของภูเขาและแม่น้ำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสวนสาธารณะที่มีต้นไม้เขียวขจีหรือแม้กระทั่งล่องเรือในแม่น้ำหมิงเจียงเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ

ในบริเวณรอบๆ ยังมีวัดและโบราณสถานต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น วัดเฮอหลิง (Erling Temple) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของดุจเจียงยัน

เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม
ดุจเจียงยันสามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี แต่เวลาที่ดีที่สุดคือตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง (มีนาคมถึงตุลาคม) เนื่องจากอากาศจะไม่ร้อนเกินไปและสามารถเดินชมได้สะดวกในช่วงอากาศดี ในช่วงฤดูฝน (มิถุนายนถึงกันยายน) แม้ว่าทิวทัศน์จะงดงามแต่บางครั้งอาจจะมีฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้การเดินทางไม่สะดวก

เคล็ดลับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางไปดุจเจียงยันควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่ต้องใช้เวลา และเตรียมรองเท้าที่เหมาะสมสำหรับการเดินชมเส้นทางต่างๆ นอกจากนี้ยังควรเตรียมเสื้อผ้าที่สบายและป้องกันฝนในช่วงฤดูฝน

สรุป
ดุจเจียงยันไม่เพียงแต่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่มีอายุกว่า 2,000 ปี แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม แต่ยังนำเสนอมุมมองทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวิศวกรรม ดุจเจียงยันคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด

Dujiangyan

Jiu Yan Qiao: สะพานเก้าตาแห่งเฉิงตู สัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์และความโรแมนติก

หนึ่งในสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณมาเยือนเฉิงตูคือ **Jiu Yan Qiao ** หรือ “สะพานเก้าตา” ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและความสวยงามอันโดดเด่น สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านเก่าแก่ของเมืองเฉิงตู และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญที่เชื่อมต่อทั้งอดีตและปัจจุบันของเมือง

สะพานเก้าตาเป็นสะพานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เนื่องจากมีการออกแบบที่ไม่เหมือนสะพานทั่วไป โดยสะพานนี้มีโครงสร้างที่มาพร้อมกับช่องเปิดเก้าแห่ง หรือที่เรียกกันว่า “ตา” ซึ่งทำให้สะพานดูเหมือนมีลักษณะพิเศษและน่าตื่นตาตื่นใจ

ประวัติศาสตร์และความสำคัญของสะพานเก้า

สะพานเก้า (Jiu Yan Qiao) สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) โดยมีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมสองฝั่งของแม่น้ำจินหลี่ (Jinli River) และเป็นทางผ่านสำคัญสำหรับผู้คนในยุคนั้น ภายหลังสะพานนี้ก็กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเฉิงตู ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้สะพานเก้าได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความโรแมนติกและความงดงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สะพานเก้าไม่เพียงแต่มีความสำคัญในด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างชีวิตประจำวันของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน

สถาปัตยกรรมของสะพานเก้า

สะพานเก้าเป็นสะพานหินที่สร้างขึ้นจากวัสดุหินธรรมชาติ มีช่องเปิดที่เป็นเอกลักษณ์จำนวน 9 ช่อง หรือที่เรียกว่า “ตา” ซึ่งตั้งเรียงกันบนตัวสะพาน ช่องเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นช่องทางสำหรับน้ำไหล แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความงดงามและดึงดูดสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา

สะพานเก้ามีความยาวประมาณ 200 เมตร และมีการตกแต่งด้วยลวดลายโบราณและสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมจีนโบราณ ทั้งการใช้กระเบื้องสีเขียวที่มีลวดลายสวยงาม และเสารูปทรงที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งแต่ไม่ทึบตัน สะพานนี้ยังเป็นที่ตั้งขององค์ประกอบทางศิลปะที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธและเทพเจ้าในวัฒนธรรมจีน

กิจกรรมที่น่าสนใจที่สะพานเก้า

  1. การเดินชมวิวแม่น้ำจินหลี่ เมื่อคุณเดินข้ามสะพานเก้า คุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำจินหลี่ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักในเมืองเฉิงตู ตลอดทางคุณสามารถเพลิดเพลินกับการชมทัศนียภาพของแม่น้ำที่เงียบสงบและท้องฟ้าที่เปิดโล่ง สะพานเก้ายังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะในช่วงเย็น เมื่อแสงไฟจากสะพานและเมืองสะท้อนลงในน้ำ

  2. การล่องเรือในแม่น้ำจินหลี่ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่าง การล่องเรือในแม่น้ำจินหลี่คือกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด คุณสามารถเช่าเรือหรือเข้าร่วมทัวร์ล่องเรือที่พาคุณผ่านสะพานเก้าและชมทัศนียภาพของเมืองเฉิงตูจากแม่น้ำ

  3. ร้านกาแฟและร้านอาหารรอบๆ สะพาน รอบๆ สะพานเก้าเต็มไปด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารที่มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งจิบกาแฟร้อนๆ หรือรับประทานอาหารจีนท้องถิ่นพร้อมชมวิวสะพานเก้าได้ ร้านเหล่านี้มักจะเปิดให้บริการจนถึงดึก โดยมีการจัดแสดงดนตรีสดหรือกิจกรรมที่น่าสนใจในบางคืน

  4. สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น สะพานเก้ายังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมท้องถิ่น มีการจัดแสดงการแสดงพื้นบ้าน เช่น การแสดงหุ่นกระบอก, การแสดงเชิดสิงโต และการแสดงดนตรีจีนดั้งเดิม การเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของเฉิงตูในรูปแบบที่สนุกสนานและมีความรู้

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสะพานเก้า

สะพานเก้าเหมาะสำหรับการเยี่ยมชมตลอดทั้งวัน แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือในช่วงเย็น โดยเฉพาะในตอนเย็นเมื่อไฟจากสะพานเก้าและเมืองสะท้อนในแม่น้ำ ช่วงนี้จะมีบรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบที่สุด หากคุณชอบการถ่ายภาพ แสงในช่วงนี้จะให้ผลลัพธ์ที่สวยงามที่สุด

หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงความพลุกพล่าน ควรไปในช่วงเช้าหรือกลางสัปดาห์ เมื่อมีผู้คนไม่มากนัก

การเดินทางและการเตรียมตัว

  • การเดินทาง: สะพานเก้าอยู่ในใจกลางเมืองเฉิงตู คุณสามารถเดินทางไปที่นี่ได้โดยการใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Jiu Yan Qiao Station หรือใช้บริการรถแท็กซี่
  • เวลาเปิด: สะพานเก้าเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวัน คุณสามารถเดินข้ามสะพานได้ฟรี แต่หากต้องการล่องเรือในแม่น้ำจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • การเตรียมตัว: การเดินทางไปสะพานเก้านั้นสะดวก แต่ควรใส่รองเท้าที่สะดวกสำหรับการเดิน เนื่องจากสะพานบางจุดอาจมีการเดินที่ไม่สะดวก และควรเตรียมกล้องถ่ายรูปหากคุณต้องการเก็บภาพความสวยงามของสถานที่

สรุป

Jiu Yan Qiao (สะพานเก้า) เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ที่สวยงามของเมืองเฉิงตู แต่ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตั้งแต่การชมวิวแม่น้ำ การล่องเรือ ไปจนถึงการสัมผัสกับกิจกรรมท้องถิ่นต่างๆ หากคุณมีโอกาสมาเยือนเฉิงตู อย่าลืมแวะไปที่สะพานเก้า เพื่อสัมผัสความสวยงามและเสน่ห์ของเมืองนี้ด้วยตัวคุณเอง! Jiu Yan Qiao

Chengdu Taikoo Li: สวรรค์แห่งการช้อปปิ้งและสัมผัสชีวิตเมืองสมัยใหม่ในเฉิงตู ประเภท: การแนะนำสถานที่ท่องเที่ย

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมและความทันสมัยของชีวิตเมืองในปัจจุบัน **Chengdu Taikoo Li ** คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ! ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเฉิงตู Taikoo Li ถือเป็นศูนย์การค้าและแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นที่สุดในเมืองเฉิงตู ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ การผสมผสานของสถาปัตยกรรมจีนโบราณกับความหรูหราแบบโมเดิร์น ทำให้ Taikoo Li ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม แต่ยังเป็นที่ท่องเที่ยวที่ควรเยี่ยมชมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสชีวิตเมืองที่มีสีสันและทันสมัย

ประวัติของ Chengdu Taikoo Li

Chengdu Taikoo Li เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 โดยกลุ่ม Swire Properties ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าในเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วโลก โดยการออกแบบที่สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ “ความเป็นเมืองแห่งอนาคตที่ไม่ทิ้งความเป็นธรรมชาติ” ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

Taikoo Li นอกจากจะเป็นสถานที่ที่รวบรวมร้านค้าแฟชั่นแบรนด์ดังระดับโลกแล้ว ยังมีร้านอาหารรสเลิศจากทั่วโลก รวมถึงคาเฟ่และบาร์ที่เหมาะแก่การสังสรรค์ในยามเย็น สิ่งเหล่านี้ทำให้ Taikoo Li เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตสมัยใหม่ของเฉิงตู

สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างจีนดั้งเดิมและทันสมัย

หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ Chengdu Taikoo Li น่าสนใจคือการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ อาคารภายในศูนย์การค้าทุกแห่งได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมจีนโบราณ เช่น การใช้หลังคาจั่วและลวดลายจีนแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็ยังคงความทันสมัยด้วยการใช้กระจกและโลหะที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู

เดินไปตามทางเดินของ Taikoo Li คุณจะพบกับการออกแบบที่เปิดพื้นที่ให้แสงธรรมชาติได้เข้ามาอย่างเต็มที่ มีสวนหย่อมขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าหรูหราและร้านอาหารนานาชาติ ทำให้บรรยากาศในพื้นที่แห่งนี้ทั้งสดใสและมีเสน่ห์

สิ่งที่คุณสามารถทำที่ Chengdu Taikoo Li

  1. การช้อปปิ้งแบรนด์ระดับโลก Chengdu Taikoo Li เป็นแหล่งรวมแบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Gucci, Chanel, Dior, หรือ Apple Store คุณสามารถเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นคุณภาพสูงจากแบรนด์ดังที่หายากในหลายๆ ที่

นอกจากนี้ยังมีร้านค้าระดับกลางที่มีสไตล์ที่ทันสมัยและหลากหลาย ทำให้ Taikoo Li เป็นสวรรค์สำหรับนักช้อปทุกคนที่ต้องการสินค้าทั้งจากแบรนด์หรูและสินค้าท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์

  1. ร้านอาหารและคาเฟ่ที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่มีร้านช้อปปิ้ง, Chengdu Taikoo Li ยังเป็นศูนย์รวมร้านอาหารและคาเฟ่ที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่ร้านอาหารจีนที่มีเมนูเสฉวนรสเผ็ดจัดจ้าน เช่น หม้อไฟเสฉวน (Sichuan hotpot), หม่าล่าผัด (Mapo Tofu) ไปจนถึงร้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่มีเมนูอาหารฝรั่งเศส, อิตาเลียน และเมดิเตอร์เรเนียน

นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่สุดชิคและบาร์ที่พร้อมบริการเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติในบรรยากาศที่อบอุ่นและทันสมัย ซึ่งเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหลังจากช้อปปิ้งหรือเพื่อพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

  1. เพลิดเพลินกับการเดินชมศิลปะและการแสดง Taikoo Li ยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมมากมายให้คุณได้เข้าร่วม เช่น การจัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินจีนและต่างชาติ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดนตรี เช่น คอนเสิร์ตสดและการแสดงดนตรีพื้นเมือง

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะ การเดินชมศิลปะสาธารณะที่ติดตั้งในหลายจุดของ Taikoo Li ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย

  1. สัมผัสบรรยากาศยามเย็นใน Taikoo Li เมื่อแดดลับขอบฟ้าและไฟเริ่มสว่างขึ้น, Chengdu Taikoo Li จะเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่คึกคักและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น บาร์และร้านอาหารต่างๆ จะเริ่มเปิดเพลงและมอบบรรยากาศที่ทันสมัยให้กับนักท่องเที่ยวและชาวเมือง การเดินเที่ยวในยามเย็นที่ Taikoo Li จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของเมืองเฉิงตูในมุมมองที่แตกต่าง

เคล็ดลับการเยี่ยมชม Chengdu Taikoo Li

  • เวลาเยี่ยมชม: Chengdu Taikoo Li เหมาะสำหรับการเยี่ยมชมตลอดทั้งวัน แต่หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงความพลุกพล่าน แนะนำให้ไปในช่วงเช้าหรือช่วงกลางสัปดาห์ นอกจากนี้การเยี่ยมชมในช่วงเย็นจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา
  • การเดินทาง: Taikoo Li ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกมากสำหรับการเดินทาง คุณสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าสาย 2 ลงที่สถานี Taikoo Li Station หรือเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากที่ไหนในเฉิงตูได้สะดวก
  • การเตรียมตัว: ถ้าคุณวางแผนที่จะช้อปปิ้งที่ร้านแบรนด์หรู ควรเตรียมงบประมาณให้เหมาะสม และหากคุณอยากชมศิลปะหรือเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ อย่าลืมเช็คเวลาจัดงานล่วงหน้า

สรุป

Chengdu Taikoo Li ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้า แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวาและทันสมัย ซึ่งผสมผสานวัฒนธรรมจีนและความทันสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะมาเพื่อช้อปปิ้ง กินอาหารอร่อย หรือเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่นี่ Taikoo Li เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในระหว่างการเยือนเมืองเฉิงตู!

Chengdu

Kuanzhai Alley: สัมผัสเสน่ห์ของตรอกซอยโบราณในเฉิงตู

เมื่อพูดถึงเมืองเฉิงตู (Chengdu) นอกจากการสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ **“Kuanzhai Alley ** หรือ “ตรอกซอยกวานไจ๋” ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเก่าแก่และความทันสมัย ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว ที่นี่ไม่เพียงแต่มีความเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมจีนโบราณ แต่ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน

ตรอกซอยกวานไจ๋ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเฉิงตู เป็นแหล่งรวมความหลากหลายของร้านค้า ร้านอาหารท้องถิ่น และแกลอรี่ศิลปะ รวมถึงมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเมืองเฉิงตูในอดีตและปัจจุบัน

ประวัติและความสำคัญของตรอกซอยกวานไจ๋

ตรอกซอยกวานไจ๋ก่อตั้งขึ้นในช่วงราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) และถือเป็นพื้นที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของเมืองเฉิงตู ในอดีต, ตรอกซอยแห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูงและผู้มีฐานะในสมัยนั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยโบราณ ผ่านทางสถาปัตยกรรมที่มีความสง่างามและมีเอกลักษณ์

ในปัจจุบัน, ตรอกซอยกวานไจ๋ได้รับการฟื้นฟูและอนุรักษ์ให้คงความเป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ ด้วยการปรับปรุงให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยว แต่ยังคงรักษาลักษณะดั้งเดิมเอาไว้ โดยเฉพาะในส่วนของ ตรอกซอยกวาน (Kuanzhai), ตรอกซอยแคบ (Zhai) และ ตรอกซอยกว้าง (Kuan) ซึ่งสะท้อนถึงชีวิตที่เรียบง่ายและการใช้ชีวิตในแบบดั้งเดิมของคนในเมืองเฉิงตู

สิ่งที่น่าสนใจในตรอกซอยกวานไจ๋

  1. การสำรวจตรอกซอยต่างๆ การเดินเที่ยวในตรอกซอยกวานไจ๋จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย ตรอกซอยแต่ละสายมีลักษณะที่แตกต่างกัน ตรอกซอยแคบ (Zhai) เป็นถนนที่มีร้านค้าย่อยๆ ขายสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นและอาหารแบบเฉิงตู ในขณะที่ตรอกซอยกว้าง (Kuan) มีร้านค้าและภัตตาคารที่ตกแต่งในสไตล์จีนโบราณ ซึ่งให้บรรยากาศที่สงบและเหมาะแก่การเดินชม

  2. ร้านอาหารท้องถิ่นและของว่างเฉิงตู หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ตรอกซอยกวานไจ๋เป็นที่นิยมคือร้านอาหารและของว่างที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารจีนสไตล์เฉิงตู เช่น หมาล่าจี่ (อาหารย่างแบบเฉิงตู) และ หม้อไฟเสฉวน รวมไปถึงของว่างท้องถิ่นอย่าง จี่หม่าโถว (ขนมปังอบ) หรือ น้ำตาลแป้งข้าวโพด และขนมหวานที่ทำจากถั่วแดง ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรลองเมื่อคุณมาเยือนที่นี่

  3. ร้านกาแฟและแกลอรี่ศิลปะ อีกหนึ่งจุดเด่นของตรอกซอยกวานไจ๋คือความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายของร้านค้าที่มีทั้งร้านกาแฟบรรยากาศดีและแกลอรี่ศิลปะที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งดื่มกาแฟในร้านคาเฟ่ที่ตกแต่งสไตล์จีนผสมกับความทันสมัย หรือเยี่ยมชมแกลอรี่ที่มีผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินท้องถิ่น

  4. การเลือกซื้อของที่ระลึก สำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาของที่ระลึกจากการท่องเที่ยวในเฉิงตู ตรอกซอยกวานไจ๋ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง เช่น งานหัตถกรรมทำมือ เครื่องเคลือบดินเผา และของฝากที่ทำจากผ้าไหมที่มีลวดลายจีนโบราณ นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับต่างๆ ที่สามารถซื้อเป็นของที่ระลึกได้

  5. การสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากการช็อปปิ้งและการชิมอาหารแล้ว คุณยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การดูการแสดงหุ่นกระบอก, การดื่มชาชุดเสฉวน, หรือการชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านของจีน ในตรอกซอยแห่งนี้มักจะมีการจัดกิจกรรมให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเมืองเฉิงตู

เคล็ดลับการเยี่ยมชมตรอกซอยกวานไจ๋

  • เวลาเยี่ยมชม: การเยี่ยมชมตรอกซอยกวานไจ๋เหมาะที่สุดในช่วงเช้าหรือเย็น เพราะอากาศเย็นสบายและนักท่องเที่ยวยังไม่พลุกพล่านมากเกินไป หากต้องการชมบรรยากาศของเมืองในยามค่ำคืน, ตรอกซอยแห่งนี้มีแสงไฟสวยงามและร้านค้าเปิดจนถึงค่ำ
  • การเดินทาง: การเดินทางไปตรอกซอยกวานไจ๋สะดวกมาก เนื่องจากตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเฉิงตู คุณสามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่หรือการใช้บริการรถไฟฟ้าของเมืองก็ได้
  • การเตรียมตัว: ควรใส่รองเท้าที่สะดวกสำหรับการเดิน เพราะตรอกซอยบางส่วนอาจจะเป็นถนนโบราณที่ไม่เรียบ

สรุป

ตรอกซอยกวานไจ๋ (Kuanzhai Alley) คือสถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศทั้งในอดีตและปัจจุบันของเมืองเฉิงตูที่มีเสน่ห์ โดยไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยร้านค้าและอาหารท้องถิ่น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวเมืองในแต่ละยุคสมัย ด้วยความเป็นเอกลักษณ์และบรรยากาศที่มีเสน่ห์ ทำให้ตรอกซอยกวานไจ๋กลายเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางมาเยือนเมืองเฉิงตู

chengdu/a>